Rukboon

ไอเดียสร้างบ้านไม้หลังขนาดเล็ก อาศัยอย่างสบาย ท่ามกลางธรรมชาติ



นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียการสร้างบ้านไม้ ที่เพียงแค่เราได้มองดูแล้ว ก็สัมผัสได้ถึงความสุขกายสุขใจ ของผู้อยู่อาศัย เพราะว่านอกจากการก่อสร้างบ้านที่ออกแบบไว้ได้อย่างสวยงามนอกจากนั้น บริเวณรอบๆ ก็มีบรรยากาศที่เป็นใจเป็นอย่างยิ่ง ไปชมแบบบ้านหลังนี้ด้วยกัน ครับ ที่มาจาก โคกหนองนามหานคร
 
 
เป็นการก่อสร้างบ้านที่ใช้โครงสร้างด้านล่างเป็นเสาปูน โครงสร้างส่วนใหญ่ทำจากไม้ จุดเด่นก็คือระเบียงที่ยื่นลงมาบ่อน้ำ ทำให้เราและครอบครัวนั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆ จากธรรมชาติทอดสาย ต ามองออกไปทุ่งกว้างเห็นสีเขียวชะอุ่ม
 
 
 
นอกจากเราจะพักผ่อน ในบ้านไม้หลังกระทัดรัดหลังนี้ได้อย่างมีความสุขแล้ว ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าความสุขกาย มาพร้อมกับความสุขใจอย่างแน่แท้
 
 
บริเวณด้านระเบียง ยื่นลงในสระน้ำ มีห้องนอนจัดขึ้นมาและห้องน้ำ ตามลำดับ ถือว่าเป็นการก่อสร้างบ้านที่สะดวกครบครัน เชื่อเหลือเกินว่าคุณผู้อ่านทุกท่านเห็นแล้ว ต้องชื่นชอบเหมือนกัน
 
 
เราไปชมไอเดียที่ดีของบ้านหลังนี้ พร้อมกันครับและไปชมบรรยากาศรอบบ้าน เป็นธรรมชาติมองดูแล้วตื่นเช้าๆ รับอากาศที่สดชื่นแจ่มใสสูดอากาศได้อย่างเต็มปอด ผู้เขียนก็ขออวยพร ให้เจ้าของบ้านมีความสุขมากๆ ครับ

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://homenana.com/

"ต้นทุน" "คุณค่า" และ "กำไร" ของชีวิต

เมื่อ กำไร = คุณค่า (ราคา) - ต้นทุน คนที่เกิดมามี "ต้นทุนชีวิต" น้อย แต่สามารถสร้าง "คุณค่าชีวิต" ได้มาก ย่อมแสดงว่าคน ๆ นั้นสามารถสร้าง "กำไรชีวิต" ของตัวเองได้มากนั่นเอง...
 หลายคนคงจะเชื่ออย่างที่ผมเชื่อว่าคนเราเกิดมาย่อมมี "ต้นทุนชีวิต" ที่ต่างกัน ทั้งต้นทุนด้านร่างกาย ต้นทุนด้านสติปัญญา และต้นทุนด้านครอบครัว...
                ถ้าเลือกได้ทุกคนคงจะเลือกที่จะเกิดมาพร้อมร่างกายที่สมบูรณ์ สติปัญญาดีและเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นมีฐานะทางสังคมเป็นที่ยอมรับ...
                 แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครสามารถเลือกได้ หลายคนเกิดมาร่างกายอ่อนแอขี้โรค หลายคนเกิดมาร่างกายไม่สมประกอบ หลายคนเกิดมาหัวไม่ดี หลายคนเกิดในครอบครัวที่แตกแยกและหลายคนเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน...
                  คนเราเกิดมาอาจจะมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน แต่เรามีโอกาสที่จะสร้างคุณค่าให้กับชีวิตเราได้เท่ากัน หลายคนเกิดมาพร้อมต้นทุนชีวิตที่ติดลบ แต่สามารถสร้างคุณค่าให้กับชีวิตของตัวเองได้อย่างมากมาย...
                 เมื่อ กำไร = คุณค่า (ราคา) - ต้นทุน คนที่เกิดมามี "ต้นทุนชีวิต" น้อย แต่สามารถสร้าง "คุณค่าชีวิต" ได้มาก ย่อมแสดงว่าคน ๆ นั้นสามารถสร้าง "กำไรชีวิต" ของตัวเองได้มากนั่นเอง...
                  ความสำเร็จและความภาคภูมิใจในชีวิตของคน ๆ หนึ่ง ไม่ใช่อยู่ที่ "ต้นทุน" แต่อยู่ที่ "คุณค่า" และ "กำไร" ของชีวิตต่างหาก...

 สำหรับบางคนแม้"ต้นทุน"ชีวิตจะน้อยกว่าคนอื่น แต่"คุณค่า"และ"กำไร"ชีวิตไม่แพ้ใครแน่นอนครับ (ภาพจากอีเมล์ครับ)
ขอบคุณบทความดีๆจาก
GotoKnow โดย  ใน บันทึก...ชีวิต


บางคนตัดสินใจลาออกจากงานที่ตนรัก เพื่อสังเวยให้กับคน ร้ า ยๆ ในองค์กร

บางคนตัดสินใจลาออกจากงานที่ตนรัก เพื่อสังเวยให้กับคนร้ายๆ ในองค์กร

การสมัครงานและการลาออกเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดในโลกของการทำงาน ไม่ใช่เรื่อง ผิ ด อะไรหากเราจะมองหาบริษัทที่ให้ เ งิ น เดือนมากขึ้น
มองถึงตำแหน่งงานที่ก้าวไปไกลกว่าเดิม อยากเปลี่ยนสายงาน หรือแม้แต่ได้เลือกทำงานที่หลงใหลจริง ๆต่างก็เป็นเหตุผลที่
เหมาะสมกับการ ล า อ อ กทั้งนั้น แต่เรื่องที่คนส่วนใหญ่มัก ส ง สั ย ก็ คือ เราต้องรู้อะไรบ้างหากจะ ล า อ อ กหลายคนตัดสินใจ
ลาออกจากงาuที่ตนรัก เพื่อสังเวยให้กับสังคมที่มีแต่คน ร้ า ย ๆในองค์กร โดยที่เจ้านายไม่ได้ปกป้องลูกน้องที่ดี แต่กลับนิ่งเฉย
ปล่อยเนื้อร้ า ย ไว้ในองค์กรหลายบริษัทต้องเสียพนักงานดีๆ ไปเพียงเพราะมี “คนร้ายๆ ในองค์กร” แต่ก็ไม่สามารถจัดการอะไร
ได้ คนดีๆ คนเก่งๆ ก็ลาออกไปกันหมดหลายๆคน ตอบได้เต็มปากเต็มคำ “ฉัน รัก งาu ของฉันมากนะ” พวกเขาไม่ได้มี ปั ญ ห า
กับงาu หนักแค่ไหนก็ลุยได้แต่บางครั้งการทำงาuกับคน เ ล ว ๆ กำลังจะทำให้เขาหมดไฟที่จะไปต่อกับองค์กรในที่สุด เขายอม
ละทิ้งงาuที่เขารักเพื่อสังเวยให้กับคนเหล่านี้ได้เสมอ เมื่อเจ้านายไม่จัดการอะไรเลยสักอย่าง บอกอะไรก็ดูเหมือนจะไม่ตักเตือน
หรือไร้ซึ่งการพัฒนาตนเองของคน ร้ า ย ๆ คนนั้น แล้วที่มัน เ ล ว ร้ า ย ไปกว่านั้นคือ คน ร้ า ย ๆเหล่านั้น กลับเป็นเจ้านายของเขา
เสียเองและเป็นคนทำให้บรร ย า กาศการทำงาuมันแย่ไปกว่าเดิม “คนในองค์กรระดับสูง” คือชนชั้นเจ้านายมีผลมาก ต่อการที่
วัฒนธรรมองค์กรจะเปลี่ยน หรือไม่เปลี่ยน ถ้าคุณเห็นบุคคล หรือกลุ่มคนที่เป็นเนื้อ ร้ า ย ขององค์กร ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะ
สม แต่คุณยังคงนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร สุดท้ายคนดีๆ ทำงาuเก่งๆเจ๋งๆ ก็จะลาออกไปกันหมดเพราะพวกเขาทนสภาวะแวดล้อมใน
การทำงาu เ ล ว ๆนั้นไม่ได้ แต่ที่เจ้านายนิ่งเฉย บางครั้งเขาเห็น ปั ญ ห า แต่เขาทำเป็นไม่เห็น เพื่อไม่ให้ตัวเองเดือดร้อนไปด้วย
หรือลงไปเล่นใน ส ง ค ร า ม ก า ร เ มื อ ง ของลูกน้อง เพื่อเอาตัวรอด ให้ตน ป ล อ ด ภั ยไม่แตะลง “ ปั ญ ห า คน”ทั้งๆที่มันกำลัง
จะเป็น ปั ญ ห า กระทบไปถึงงาuเสียด้วยซ้ำ ความพ ย า ย า มของเจ้านายในการแก้ปัญหาคน สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะเปลี่ยน
วัฒนธรรมองค์กร และสิ่งแวดล้อมในการทำงาuให้น่าอยู่ขึ้น ซึ่งจะช่วย HR ขับเคลื่อนได้ดีมากด้วยความร่วมมือ การ report และ
feedback ต่างๆ กลุ่มคนที่สร้าง ปั ญ ห า ให้เพื่อนร่วมงาu และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในคำพูด และการกระทำมันทำให้การ
ทำงาuไร้ความเป็นทีม จะหาความเป็นทีมได้จากคนทำงาuกร่างๆในที่ทำงาuที่ไม่สนใจการอยู่ร่วมกับคนอื่น หรือการสร้าง
วัฒนธรรมที่ดีในองค์กรคงหาไม่ได้อีกแล้วและถ้าพ ย า ย า มแล้วที่จะแก้ไข แต่คนเหล่านั้นไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ผู้บริหาร
และ HR ควรต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งที่เด็ดขาดมากพอ ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะเสียคนฝีมือดีที่เป็นเส้น เ ลื อ ด ใหญ่ของ
องค์กรไปเรื่อยๆ จนเหลือไว้แต่ “เจ้าที่ขาโจ๋” ที่ทำตัวยิ่งใหญ่ แต่ไม่ทำงาu และไม่เป็นเพื่อนร่วมงาuที่ดีแล้วก็ยังคงเก็บเอาไว้ใน
องค์กร ยอมจากไปเพื่อแลกกับ สุ ข ภ า พ จิตของตนเอง คนเราใช้เวลาในที่ทำงาuปีหนึ่งๆ มากกว่าได้หยุดอยู่บ้านเสียอีก ลอง
คิดดูสิคะ บางคนอยู่ออฟฟิศมากว่าอยู่บ้านเสียอีกหลายคนรักงาu ยอมทำงาuโดยไม่รับโอที ยอมสละเวลาทุกอย่าง แต่กลับได้
เพื่อนร่วมงาu ร้ า ย ๆ ก็ไม่อ ย า กอยู่หรอกค่ะบอกตรงๆเลย มันเป็น ” สุ ข ภา พ จิต” ทั้งหมดของพวกเขา ให้เขาแลกชีวิตการทำ
งาu กับการต้องเป็นบ้ากับคนในงาu เมื่อเขาลองชั่งน้ำหนักแล้วมันไม่คุ้มสุดท้าย เขาเลือกลาออกไปดีกว่า เพราะมันแลกกับจิต
ที่ดีกลับมา และมันทำให้คุณค่าในการใช้ชีวิตในที่ทำงาuของเขากลับมาด้วย เมื่อได้ทำงาuที่รักและเจอเพื่อนร่วมงาuที่น่ารักอยู่
ร่วมไปด้วยกันมันทำให้โลกของการทำงาuน่าอยู่ เป็น teamwork งาuก็สำเร็จ ความสัมพันธ์ก็ดี ความสุขก็กลับมา แต่ ปั ญ ห า
คือ การลาออกไปหาที่ใหม่ ไม่ได้รับประกันว่า เราจะไม่เจอคน ร้ า ย ๆ แต่ก็ขอภาวนาละกันว่า ขอให้ได้เจ้านายดีๆที่จัดการผู้ ร้ า
ย ในคราบเพื่อนร่วมงาuให้เราได้ และเจ้านายก็อย่าเป็นผู้ ร้า ย เสียเองเพี้ยงอ่านแล้วถูกใจมาก ทุกวันนี้ แม้แต่เพื่อนร่วมงาuหรือ
คนที่ปริญญาชีวิตรู้จัก หลายคนพบ ปั ญ ห า นี้ และลาออกกันไปมากมายเพียงเพราะไม่ชอบเพื่อนร่วมงาu ทั้งๆ ที่เป็นคนที่ทำ
งาuเก่งมาก สละเวลาทุกอย่างเพื่องาu และมีความรับผิดชอบสูงมาก แต่บริษัทไม่สามารถจัดการกับคนร้่ายๆ ที่เลี้ยงเอาไว้ได้
เค้าจึงต้องขอลาออกไปหาที่ใหม่ที่อาจจะดีกว่าเดิมนั่นเอง

ขอบคุณบทความดีๆจาก 
http://beautyoflifes.com/

"ลุงตู่" สั่งช่วยเหลือ "น้องต๋อง" เด็กกตัญญู 10 ขวบ ปั่นจักรยานขายผักเลี้ยง 4 ชีวิต


(24 เม.ย.63) นายชาตรี ณ ถลาง นายอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี และนายวันชัย ปริญญาสิริ ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ด.ช.จาฏุพัจน์ อายุ 10 ปี หรือน้องต๋อง ที่ต้องปั่นจักรยานขายผักทุกวัน เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว มีย่าคือ นางวรรณีย์ อายุ 56 ปี คุณทวดชาย อายุ 96 ปี ป่วยติดเตียง และคุณทวดหญิง อายุ 89 ปี ที่อาศัยรวมกัน ภายในบ้านพัก ตำบลระโนด อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา
เรื่องราวชีวิตของน้องต๋อง ถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนมาแล้ว และได้รับเสียงชื่นชมยกย่องจากผู้คน ในการสู้ชีวิต และความกตัญญู ซึ่งหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องราวความเดือดร้อนของน้องต๋อง ได้ประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ ส.ส.ในพื้นที่ลงไปดูแลและให้การช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ขายผักได้น้อยลง แต่น้องต๋องยังคงปั่นจักรยานพ่วงข้างออกขายของทุกวัน ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง
เบื้องต้นได้มอบสิ่งของยังชีพที่จำเป็นให้กับน้องต๋อง และครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะช่วยเหลือต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สร้างความดีใจให้กับน้องต๋องอย่างมาก
น้องต๋อง กล่าวว่า ต้องการหาเงินช่วยดูแลย่า และซื้อขนม แต่ช่วงนี้ผักขายยาก เพราะโควิด-19 คนน้อย แต่ก็ยังคงเอาผักที่ย่าปลูกมาขายที่ตลาดทุกวัน
ทางด้าน นางวรรณีย์ ย่าของน้องต๋อง บอกว่า ไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงิน 5,000 บาท เพราะยังพอมีรายได้จากน้องต๋องที่ปั่นจักรยานช่วยย่าขายผัก ทำมาตั้งแต่ ป.1 จนตอนนี้จะขึ้น ป.5 และยังคงขายปกติเหมือนเดิม อยากได้อะไรก็ให้เก็บเงินซื้อเอง

ไอเดียสร้างบ้านสวน (งบ 350,000 บาท) เอาไว้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สวยงามเกินบรรยาย



ไอเดียบ้านสวนหลังงาม ที่นับว่าเป็นสุดยอดโปรเจ็คสร้างแรงบันดาลใจ ให้ใครหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ สำหรับบ้านสวนหลังนี้ออกแบบและปลูกสร้างภายใต้โครงการ “ที่สวนเงินผ่อน อุดร” และได้มีการแชร์โดยเจ้าของโครงการที่ใช้นามว่าคุณ “UD Land Plus” ซึ่งเป็นเจ้าของเพจ “พ่อค้าอุดร” ที่ทำธุรกิจที่ดินและอสังหาฯในจังหวัดอุดรธานี โดยเปิดเผยว่าบ้านสวนตากอากาศหลังนี้ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 350,000 บาทเท่านั้นเอง จะสวยงาม น่าอยู่ขนาดไหน เราตามไปชมรายละเอียดกันเลยครับ
ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ปลูกสร้างติดกับสระน้ำ มีชานระเบียงยื่นเข้าไปในตัวสระน้ำใสเขียวงดงามลงตัวมาก
พาย้อนกลับไปดูไอเดียในฝัน แบบ 3D กราฟฟิคที่ออกแบบในคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสร้างจริง
เปรียบเทียบภาพออกแบบ และนำไปปลูกสร้างจริง ว่าสวยงามน่าอยู่ขนาดไหน
 
 
ซูมเข้ามาใกล้ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดชัดเจน เป็นบ้านสวนชั้นเดียวยกพื้นสูง ใต้ถุนปล่อยโล่งปูพื้นด้วยกระเบื้องสีเทาลายอ่อน มีเคาน์เตอร์ทำครัวขนาดมินิมอลพร้อมอ่างซิงค์ มีชานระเบียงริมสระที่ใช้เสาเหล็กและโครงสร้างเหล็กปูด้วยแผ่นพื้นสำเร็จรูป และปูทับด้วยพื้นพรมสีเขียวอีกที เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศท้องทุ่งโดยรอบ
มีบันไดขึ้นมายังชั้นบนของตัวบ้าน ที่แบ่งเป็นห้องโถงหลัก และชั้นดาดฟ้าเปิดโล่ง มีราวระแนงเหล็กโดยรอบป้องกันการพลัดตก เหมาะสำหรับตากอากาศ ผักผ่อน ชมวิว หรือกางเต๊นท์นอนชมดาว หลังคาใช้วัสดุแผ่นเมทัลชีท และมุงทับด้วยใบจากสานอีกชั้นบน เพื่อให้เข้าบรรยากาศบ้านสวน
บรรยากาศบนระเบียงชั้นดาดฟ้า เหมาะสำหรับนั่งกินลมชมวิว ชิลล์ๆ สบายๆ
มองลงไปยังชานระเบียงริมสระชั้นล่าง ที่ประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟสีส้ม บรรยากาศน่านั่งจิบน้ำเก๊กฮวยเย็นยิ่งนัก
บรรยากาศสุดโรแมนติคในยามค่ำคืน
ลองแต่งด้วยม่านสีขาวบางๆ ให้ลมพัดผ่าน ช่างเหมือนฉากสุดประทับใจในละครตอนอวสานจริงๆ
วิวมุมสูงเพื่อให้เห็นภาพรวมโครงการบ้านสวนทั้งหมด แบ่งเป็นบล็อกและมีถนนตัดผ่านด้านหน้า แต่ละบล็อกประกอบด้วยที่ดินพื้นที่ขนาด 500 ตร.ว.+สระน้ำลึก 1.2 เมตร ที่มีน้ำซึมให้ใช้ได้ตลอดปี
มองมุมไหนก็สวยน่าอยู่มากจริงๆ
ไม่ว่าจะเหนื่อยมาจากไหน เจอปัญหาเรื่องใดก็ตาม บ้านสวนและธรรมชาติเขียวขจีจะเยียวยาได้เสมอ
รอให้ต้นไม้โตขึ้นอีกสักนิด หญ้าเขียวเต็มพื้น ใส่แปลงผักและเล้าเลี้ยงไก่เล็กๆเข้าไป คงจะน่าหลงไหลมากกว่าเดิม
เจ้าของโครงการยืนยันว่า ใช้งบประมาณในการปลูกสร้างเฉพาะตัวบ้านสวนพร้อมเข้าอยู่ แค่ 350,000 บาท เท่านั้นเอง
ช่างเป็นบ้านสวนในฝันของใครหลายๆคน น่าอยู่มากจริงๆ
นับว่าเป็นอีกสุดยอดไอเดียบ้านสวนที่สวยโดนใจ อบอุ่นน่าอยู่มากมาย แถมยังใช้งบประมาณในการปลูกสร้างที่ไม่ถือว่าสูงเกินเอื้อม สามารถจับต้องได้ ประกอบไปด้วย
– 1 ห้องนอน
– 1 ห้องน้ำ
– 1 ครัว
– 2 ลานระเบียง
– 1 ที่จอดรถใต้ชั้นดาดฟ้า
ใช้งบประมาณปลูกสร้างพร้อมเข้าอยู่ 350,000 บาท
หวังว่าบ้านสวนที่พาทุกท่านมาชมวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งไอเดีย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับแฟนเพจทุกท่านที่ชื่นชอบบ้านสวนสไตล์ทันสมัยนี้ เพื่อเอาไว้อยู่อาศัยหรือพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม 
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก https://babban.club/

บ้านหลังน้อยปลายนา ขนาดกะทัดรัด งบ 120000



เป็นอีกแบบไอเดียบ้านหลังน้อยกลางทุ่ง ที่ถูกล้อมรอบด้วยพืชพรรณต่างๆทางธรรมชาติ ทำให้มองเห็นธรรมชาติสวยๆได้อย่างชัดเจน และสามารถทิวเขาสูง ที่มีความโดดเด่นสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบรูณ์ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเป็นแต่พื้นที่สีเขียวที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย

บ้านหลังน้อยปลายนา ขนาดกะทัดรัด งบ 120000

บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้น โครงสร้างเป็นไม้เทียม มุงด้วยหลังคาเรียบง่าย ใช้ไม้ของตนเอง และออกแบบก่อสร้างเอง โดยให้เพื่อนมาช่วยกั้นห้องให้ ส่วนหน้าบ้านออกแบบให้มีระเบียงกว้าง กันราวด้วยไม้ สำหรับนั่งพักผ่อน และนั่งชมวิวสวยๆของธรรมชาติกลางทุ่งนา

ซึ่งเป็นบ้านของคุณ สุวัฒน์ วิทยสุจินต์ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 120,000 บาท (ไม่รวมห้องน้ำกับงานสี)


บ้านหลังนี้ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว พร้อมระเบียงสำหรับต้อนรับแขก

บริเวณรอบบ้านล้อมรอบด้วยต้นไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นกล้วย ต้นมะพร้าว และต้นข้าวเหลืองอร่าม
จะเห็นได้ว่า เป็นอีกหนึ่งไอเดียบ้านไม้หลังเล็ก ที่ถูกออกแบบก่อสร้างท่ามกลางทุ่งนา มองเห็นทิวเขาสูง และใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติ ต้องขอขอบคุณเจ้าของบ้านที่ได้แบ่งปันไอเดียบ้านหลังนี้ให้เราได้รับชมกันค่ะ ที่มาคุณ สุวัฒน์ วิทยสุจินต์

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://yonmakale.com/

ผลวิจัยเผย สามีที่จุ๊บภรรยา ก่อนไปทำงาน จะทำให้ มีแต่จะรวย

การที่ ‘สามีจุ๊บเมียก่อน’ ไปทำงานนอกจากจะทำ ให้ความ สัมพันธ์ดีขึ้นได้แล้ว ยังช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้มหาศาล
เพื่อแลกกับชี วิตที่มีคุณภาพมากขึ้น ดีต่อสุขภาพและช่วย ให้มีอ ายุยืนยาวอี กด้วย
สื่อต่างประเทศราย งานว่าการวิจัยในเยอรมนี ตะวันต กใ นทศวรรษที่ 1960 พบว่า ก่อนออกไปทำงานในทุกวัน

หากสามีจูบลา ‘ภรรยา’ จนเป็นนิสัยจะทำให้มีรายรับมากขึ้นถึง 20-30 % เมื่อ เปรียบเทีย บกับคนในวัยเดียวกันแต่ไ ม่จูบลาภร รຢา
แน่นอนว่าการมีรายได้มากก็แสดงว่ามีโชคในการใช้เงิน แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ การศึกษาพบว่าห ากคุ ณไม่ได้จูบกับคู่ รักเป็นนิสัย
ก่ อนออกจา กบ้าน มีโอกา สที่จะเกิดอุบัติเหตุ จ ะสูงกว่าคนที่จูบ 50% ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณ คุ้นเคยกับการจูบกับคู่ รักก่อนออกจาก บ้าน
ไปทำงานในทุกวันเป็น เวลานานจะ มีชีวิตอยู่ได้นาน กว่า 5 ปี โดยเฉลี่ย

 แน่นอนคุณอ าจคิ ดว่ามันไร้สาระ แต่นักวิจัยไม่พูดปากเปล่า พวก เขาอธิบาย ว่า “การจูบ” ก่อนออกไปข้างนอกสามารถทำ ให้ผู้ชายได้รับค วา มคิดเชิงบวก
และช่วยกำ จัดความคิดด้านลบ สามารถมุ่งเน้นไปที่ทุกสิ่งโดยไ ม่วอกแวก และยังช่วยสร้าง ‘พลังเชิงบวก’ เพื่อพร้อมจะเผ ชิญหน้ากับค วามท้าทายที่จะเกิดขึ้นได้
อีกทั้งประสิทธิภาพในการ ‘ทำงาน’ จะดีขึ้น และ ยิ่งกว่านั้น จะทำให้การขับรถมี ความระมัด ระวังมากขึ้นด้วย
ผลวิจัยออกมา ซะขนา  ดนี้จะ  ช้าอยู่ทำไม เริ่มตั้งแต่ ตอนนี้เล ยดีกว่ามั้ยล่ะค่ะ จะ ได้ รวยๆ กันทุกคน

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.angelmagazines.com/

ป้ายกำกับ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.
 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2019. รับจัดงานทำบุญบ้าน - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger