Rukboon

"ลุงตู่" สั่งช่วยเหลือ "น้องต๋อง" เด็กกตัญญู 10 ขวบ ปั่นจักรยานขายผักเลี้ยง 4 ชีวิต


(24 เม.ย.63) นายชาตรี ณ ถลาง นายอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี และนายวันชัย ปริญญาสิริ ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ด.ช.จาฏุพัจน์ อายุ 10 ปี หรือน้องต๋อง ที่ต้องปั่นจักรยานขายผักทุกวัน เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว มีย่าคือ นางวรรณีย์ อายุ 56 ปี คุณทวดชาย อายุ 96 ปี ป่วยติดเตียง และคุณทวดหญิง อายุ 89 ปี ที่อาศัยรวมกัน ภายในบ้านพัก ตำบลระโนด อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา
เรื่องราวชีวิตของน้องต๋อง ถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนมาแล้ว และได้รับเสียงชื่นชมยกย่องจากผู้คน ในการสู้ชีวิต และความกตัญญู ซึ่งหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องราวความเดือดร้อนของน้องต๋อง ได้ประสานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ ส.ส.ในพื้นที่ลงไปดูแลและให้การช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ขายผักได้น้อยลง แต่น้องต๋องยังคงปั่นจักรยานพ่วงข้างออกขายของทุกวัน ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง
เบื้องต้นได้มอบสิ่งของยังชีพที่จำเป็นให้กับน้องต๋อง และครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะช่วยเหลือต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สร้างความดีใจให้กับน้องต๋องอย่างมาก
น้องต๋อง กล่าวว่า ต้องการหาเงินช่วยดูแลย่า และซื้อขนม แต่ช่วงนี้ผักขายยาก เพราะโควิด-19 คนน้อย แต่ก็ยังคงเอาผักที่ย่าปลูกมาขายที่ตลาดทุกวัน
ทางด้าน นางวรรณีย์ ย่าของน้องต๋อง บอกว่า ไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงิน 5,000 บาท เพราะยังพอมีรายได้จากน้องต๋องที่ปั่นจักรยานช่วยย่าขายผัก ทำมาตั้งแต่ ป.1 จนตอนนี้จะขึ้น ป.5 และยังคงขายปกติเหมือนเดิม อยากได้อะไรก็ให้เก็บเงินซื้อเอง

ไอเดียสร้างบ้านสวน (งบ 350,000 บาท) เอาไว้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สวยงามเกินบรรยาย



ไอเดียบ้านสวนหลังงาม ที่นับว่าเป็นสุดยอดโปรเจ็คสร้างแรงบันดาลใจ ให้ใครหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ สำหรับบ้านสวนหลังนี้ออกแบบและปลูกสร้างภายใต้โครงการ “ที่สวนเงินผ่อน อุดร” และได้มีการแชร์โดยเจ้าของโครงการที่ใช้นามว่าคุณ “UD Land Plus” ซึ่งเป็นเจ้าของเพจ “พ่อค้าอุดร” ที่ทำธุรกิจที่ดินและอสังหาฯในจังหวัดอุดรธานี โดยเปิดเผยว่าบ้านสวนตากอากาศหลังนี้ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 350,000 บาทเท่านั้นเอง จะสวยงาม น่าอยู่ขนาดไหน เราตามไปชมรายละเอียดกันเลยครับ
ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ปลูกสร้างติดกับสระน้ำ มีชานระเบียงยื่นเข้าไปในตัวสระน้ำใสเขียวงดงามลงตัวมาก
พาย้อนกลับไปดูไอเดียในฝัน แบบ 3D กราฟฟิคที่ออกแบบในคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสร้างจริง
เปรียบเทียบภาพออกแบบ และนำไปปลูกสร้างจริง ว่าสวยงามน่าอยู่ขนาดไหน
 
 
ซูมเข้ามาใกล้ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดชัดเจน เป็นบ้านสวนชั้นเดียวยกพื้นสูง ใต้ถุนปล่อยโล่งปูพื้นด้วยกระเบื้องสีเทาลายอ่อน มีเคาน์เตอร์ทำครัวขนาดมินิมอลพร้อมอ่างซิงค์ มีชานระเบียงริมสระที่ใช้เสาเหล็กและโครงสร้างเหล็กปูด้วยแผ่นพื้นสำเร็จรูป และปูทับด้วยพื้นพรมสีเขียวอีกที เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศท้องทุ่งโดยรอบ
มีบันไดขึ้นมายังชั้นบนของตัวบ้าน ที่แบ่งเป็นห้องโถงหลัก และชั้นดาดฟ้าเปิดโล่ง มีราวระแนงเหล็กโดยรอบป้องกันการพลัดตก เหมาะสำหรับตากอากาศ ผักผ่อน ชมวิว หรือกางเต๊นท์นอนชมดาว หลังคาใช้วัสดุแผ่นเมทัลชีท และมุงทับด้วยใบจากสานอีกชั้นบน เพื่อให้เข้าบรรยากาศบ้านสวน
บรรยากาศบนระเบียงชั้นดาดฟ้า เหมาะสำหรับนั่งกินลมชมวิว ชิลล์ๆ สบายๆ
มองลงไปยังชานระเบียงริมสระชั้นล่าง ที่ประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟสีส้ม บรรยากาศน่านั่งจิบน้ำเก๊กฮวยเย็นยิ่งนัก
บรรยากาศสุดโรแมนติคในยามค่ำคืน
ลองแต่งด้วยม่านสีขาวบางๆ ให้ลมพัดผ่าน ช่างเหมือนฉากสุดประทับใจในละครตอนอวสานจริงๆ
วิวมุมสูงเพื่อให้เห็นภาพรวมโครงการบ้านสวนทั้งหมด แบ่งเป็นบล็อกและมีถนนตัดผ่านด้านหน้า แต่ละบล็อกประกอบด้วยที่ดินพื้นที่ขนาด 500 ตร.ว.+สระน้ำลึก 1.2 เมตร ที่มีน้ำซึมให้ใช้ได้ตลอดปี
มองมุมไหนก็สวยน่าอยู่มากจริงๆ
ไม่ว่าจะเหนื่อยมาจากไหน เจอปัญหาเรื่องใดก็ตาม บ้านสวนและธรรมชาติเขียวขจีจะเยียวยาได้เสมอ
รอให้ต้นไม้โตขึ้นอีกสักนิด หญ้าเขียวเต็มพื้น ใส่แปลงผักและเล้าเลี้ยงไก่เล็กๆเข้าไป คงจะน่าหลงไหลมากกว่าเดิม
เจ้าของโครงการยืนยันว่า ใช้งบประมาณในการปลูกสร้างเฉพาะตัวบ้านสวนพร้อมเข้าอยู่ แค่ 350,000 บาท เท่านั้นเอง
ช่างเป็นบ้านสวนในฝันของใครหลายๆคน น่าอยู่มากจริงๆ
นับว่าเป็นอีกสุดยอดไอเดียบ้านสวนที่สวยโดนใจ อบอุ่นน่าอยู่มากมาย แถมยังใช้งบประมาณในการปลูกสร้างที่ไม่ถือว่าสูงเกินเอื้อม สามารถจับต้องได้ ประกอบไปด้วย
– 1 ห้องนอน
– 1 ห้องน้ำ
– 1 ครัว
– 2 ลานระเบียง
– 1 ที่จอดรถใต้ชั้นดาดฟ้า
ใช้งบประมาณปลูกสร้างพร้อมเข้าอยู่ 350,000 บาท
หวังว่าบ้านสวนที่พาทุกท่านมาชมวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งไอเดีย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับแฟนเพจทุกท่านที่ชื่นชอบบ้านสวนสไตล์ทันสมัยนี้ เพื่อเอาไว้อยู่อาศัยหรือพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม 
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก https://babban.club/

บ้านหลังน้อยปลายนา ขนาดกะทัดรัด งบ 120000



เป็นอีกแบบไอเดียบ้านหลังน้อยกลางทุ่ง ที่ถูกล้อมรอบด้วยพืชพรรณต่างๆทางธรรมชาติ ทำให้มองเห็นธรรมชาติสวยๆได้อย่างชัดเจน และสามารถทิวเขาสูง ที่มีความโดดเด่นสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบรูณ์ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเป็นแต่พื้นที่สีเขียวที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย

บ้านหลังน้อยปลายนา ขนาดกะทัดรัด งบ 120000

บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้น โครงสร้างเป็นไม้เทียม มุงด้วยหลังคาเรียบง่าย ใช้ไม้ของตนเอง และออกแบบก่อสร้างเอง โดยให้เพื่อนมาช่วยกั้นห้องให้ ส่วนหน้าบ้านออกแบบให้มีระเบียงกว้าง กันราวด้วยไม้ สำหรับนั่งพักผ่อน และนั่งชมวิวสวยๆของธรรมชาติกลางทุ่งนา

ซึ่งเป็นบ้านของคุณ สุวัฒน์ วิทยสุจินต์ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 120,000 บาท (ไม่รวมห้องน้ำกับงานสี)


บ้านหลังนี้ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว พร้อมระเบียงสำหรับต้อนรับแขก

บริเวณรอบบ้านล้อมรอบด้วยต้นไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นกล้วย ต้นมะพร้าว และต้นข้าวเหลืองอร่าม
จะเห็นได้ว่า เป็นอีกหนึ่งไอเดียบ้านไม้หลังเล็ก ที่ถูกออกแบบก่อสร้างท่ามกลางทุ่งนา มองเห็นทิวเขาสูง และใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติ ต้องขอขอบคุณเจ้าของบ้านที่ได้แบ่งปันไอเดียบ้านหลังนี้ให้เราได้รับชมกันค่ะ ที่มาคุณ สุวัฒน์ วิทยสุจินต์

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://yonmakale.com/

ผลวิจัยเผย สามีที่จุ๊บภรรยา ก่อนไปทำงาน จะทำให้ มีแต่จะรวย

การที่ ‘สามีจุ๊บเมียก่อน’ ไปทำงานนอกจากจะทำ ให้ความ สัมพันธ์ดีขึ้นได้แล้ว ยังช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้มหาศาล
เพื่อแลกกับชี วิตที่มีคุณภาพมากขึ้น ดีต่อสุขภาพและช่วย ให้มีอ ายุยืนยาวอี กด้วย
สื่อต่างประเทศราย งานว่าการวิจัยในเยอรมนี ตะวันต กใ นทศวรรษที่ 1960 พบว่า ก่อนออกไปทำงานในทุกวัน

หากสามีจูบลา ‘ภรรยา’ จนเป็นนิสัยจะทำให้มีรายรับมากขึ้นถึง 20-30 % เมื่อ เปรียบเทีย บกับคนในวัยเดียวกันแต่ไ ม่จูบลาภร รຢา
แน่นอนว่าการมีรายได้มากก็แสดงว่ามีโชคในการใช้เงิน แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ การศึกษาพบว่าห ากคุ ณไม่ได้จูบกับคู่ รักเป็นนิสัย
ก่ อนออกจา กบ้าน มีโอกา สที่จะเกิดอุบัติเหตุ จ ะสูงกว่าคนที่จูบ 50% ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณ คุ้นเคยกับการจูบกับคู่ รักก่อนออกจาก บ้าน
ไปทำงานในทุกวันเป็น เวลานานจะ มีชีวิตอยู่ได้นาน กว่า 5 ปี โดยเฉลี่ย

 แน่นอนคุณอ าจคิ ดว่ามันไร้สาระ แต่นักวิจัยไม่พูดปากเปล่า พวก เขาอธิบาย ว่า “การจูบ” ก่อนออกไปข้างนอกสามารถทำ ให้ผู้ชายได้รับค วา มคิดเชิงบวก
และช่วยกำ จัดความคิดด้านลบ สามารถมุ่งเน้นไปที่ทุกสิ่งโดยไ ม่วอกแวก และยังช่วยสร้าง ‘พลังเชิงบวก’ เพื่อพร้อมจะเผ ชิญหน้ากับค วามท้าทายที่จะเกิดขึ้นได้
อีกทั้งประสิทธิภาพในการ ‘ทำงาน’ จะดีขึ้น และ ยิ่งกว่านั้น จะทำให้การขับรถมี ความระมัด ระวังมากขึ้นด้วย
ผลวิจัยออกมา ซะขนา  ดนี้จะ  ช้าอยู่ทำไม เริ่มตั้งแต่ ตอนนี้เล ยดีกว่ามั้ยล่ะค่ะ จะ ได้ รวยๆ กันทุกคน

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.angelmagazines.com/

หากคุณมีเงิน 3 แสน คุณจะทำให้มันเป็น “หนี้สิน” หรือ “ทรัพย์สิน” คิดให้ดีก่อนลงทุน

เป็นอีกหนึ่ง ข้อคิดดีๆ และให้แง่คิดได้มากมาย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เตชธโร สายทะเล” ได้โพสต์ข้อคิดดีๆ สำหรับคนที่ต้องการต่อยอดหรือมีเงินก้อนแล้วจะทำอะไรดีความจำเป็นของแต่ละคนและการใช้ชีวิตไม่เหมือนกันนะคะแต่สิ่งที่ควรทำนั้นต้องขึ้นอยู่กับความจำเป็นของเราด้วย ถ้ามีเงิน 3 แสนบาท ระหว่าง การซื้อวัวมาเลี้ยงกับการซื้อรถยนต์ เพิ่มมูลค่าให้กับเราได้ในอนาคต จะเลือกอันไหนก่อน




โดยได้โพสต์พร้อมระบุว่า… #เอาข้อคิดดีๆมาฝากครับ สมมุติผมมีเงินอยู่3แสน….ถ้าผมเอาไปดาวรถ1คัน ผมจะต้องผ่อนทุกเดือนละ8000-10000 เป็นเวลา4-5ปี (เขาเรียกว่าหนี้สิน) แต่ถ้าผม เอาเงินนั้นมาซื้อวัว จะได้ประมาน7-10ตัว และทุกๆปี ผมจะได้ลูกวัวเพิ่ม7-10ตัว ( อันนี้เขาเรียกว่าทรัพย์สิน ) และถ้าเปรียบเวลา5ปี ค่อยขายพวกลูกวัวแล้วมาซื้อรถ วันนั้นแหละ ผมจะมีทั้งรถทั้งวัว ทั้งๆที่เป็นเงินลงทุนก้อนเดียว



ข้อคิดนี้สอนไห้รู้ว่า..#อย่าเอาเงินไปลงทุนกับอะไรที่มันจม พยายามคิดหาวิธีให้เงินนั้นงอกเงย จะได้ต่อยอดไปเรื่อยๆครับ #ข้อคิดนี้ หวังว่าน่านะมีประโยชน์ไม่มากก้น้อยนะครับ อาจจะไม่สายเกินไปนะที่จะมีเหมือนคนอื่นๆโดยไม่ต้องมีหนี้ #ข้อคิด
ก็เป็นอีกมุมมองในข้อคิดเดียวกันแต่ก็ต่างคนก็ต่างมุมต่างความคิด ซื้อรถยนต์ก็ได้ใช้ ซื้อวัวก็เพิ่มราคา ได้ลูกในอนาคต มันขึ้นอยู่กับความจำเป็น และสถานะของตัวบุคคลเอง ข้อคิดดีค่ะแต่บางคนนั้นมีความจำเป็นที่แตกต่างกันไปถ้าท่านทำงานที่จำเป็นก็ต้องควรซื้อรถ และคนที่มีพื้นที่ก็ควรที่จะเลี้ยง แต่อย่างไรแล้วก็ควรใช้เหตุและผล ว่าเราควรทำอะไร



เราจึงได้นำข้อมูลเกี่ยวกับคุณ สังวน ดาปาน ที่เป็นเกษตรกรเลี้ยงโคขุน ถึงทิศทางกระแสของโคขุน ว่าจะไปในทิศทางไหนเพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณผู้อ่านนะคะ เผื่อท่านใดมีเงินก้อนเงินเก็บจะได้นำมาลงทุน หรือจะไปซื้อรถยนต์อันนี้ก็แล้วแต่ท่านจะสะดวกกันเลยนะคะ



“สมัยแรกๆ ที่ผมเริ่มเลี้ยงวัวขุนผมซื้อวัวตัวละ 3,000-4,000 บาท มาเข้าขุน ตอนนั้น วัวยังราคาถูกมาก ไม่เหมือนตอนนี้ ที่ราคาตัวละเกือบ 20,000 บาท สมัยก่อนผมขุนครั้งละประมาณ 30 ตัว เพราะยังมีเรี่ยวแรง มีช่องทางหาทุนก็ขุนได้ครั้งละหลายตัว” คุณสังวน เริ่มเล่า



จากวันนั้นจนวันนี้ที่คุณสังวนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำวัวขุนมาค่อนชีวิตวันนี้ คุณสังวนจึงมีวัวเลี้ยงเอาไว้แค่ 8 ตัว “ผมเลี้ยงวัวแม่พันธุ์เอาไว้ 4 ตัว อีก 4 ตัวเป็นวัวที่กำลังขุนอยู่ ก็ทำตามกำลังทุนและกำลังกายที่เรามี ที่ผ่านมาไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่เคยเลิกเลี้ยงวัวแม้ว่าแม่บ้านผมจะขอให้เลิกเลี้ยงหลายครั้งผมก็ยังดื้อ” คุณสังวน เล่าไปยิ้มไป



หลักการเลือกวัวมาเข้าขุนของคุณสังวน คือ จับวัวเล็ก วัวรุ่นมาเข้าขุนโดยดูที่ราคาด้วยหากราคาอยู่ในช่วง 10,000 ต้นๆ ไม่เกิน 20,000 บาท ก็พิจารณาไว้ก่อน หลังจากนั้นก็มาดูในเรื่องของโครงร่างประกอบกัน เลือกวัวที่มีสันหลังยาว กล้ามเนื้อคอยาว สะโพกใหญ่ เป็นหลักเพราะวัวโครงร่างแบบนี้สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ดีเมื่อมาเข้าขุน



“ผมคิดว่าราคาวัวในบ้านเราน่าจะดีไปอีกหลายปีเพราะวัวหมดจริงๆ ที่ผ่านมาแม่พันธุ์ก็ถูกนำมาขุน เอามาเชือดจนใกล้จะหมด ผลิตลูกไม่ทัน และเมื่อวัวราคาดีก็จะมีคนหน้าใหม่สนใจในอาชีพนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมจะแนะนำก็คือ คนเลี้ยงวัวจะต้องเป็นคนขยันและมีใจรักจึงจะเลี้ยงวัวได้ตลอดรอดฝั่งหากเลี้ยงวัวตามกระแสเดี๋ยวเหนื่อยก็จะเบื่อหน่ายเลิกไป นอกจากนั้นเรายังต้องวางแผนการเลี้ยงวัวของเราให้ดี หากใครที่คิดจะทำวัวขุนแนะนำว่าทางที่ดีควรสร้างฝูงวัวแม่พันธุ์ของเราเองไม่ต้องรอหาซื้อวัวจากตลาด ทำต้นทุนของเราให้ต่ำเราถึงจะไปรอดได้”

ขอบคุณข้อมูลจาก : เตชธโร สายทะเล, เทคโนโลยีชาวบ้าน

แบ่งเงินเป็น 5 กอง เงินเดือนน้อยก็ทำได้ มี บ้าน-รถ ใน 5


แบ่งเงินเป็น 5 กอง เงินเดือนน้อยก็ทำได้ มี บ้าน-รถ ใน 5 ปี
“ ลี กา ซิง ” ชาวจีนอพ พ ที่มาอาศัยอยู่ในเกาะฮ่องกง ก่อร่างสร้างตัว
เริ่มต้นชีวิตใหม่บนแผ่นดินใหม่ โดยเริ่มต้นจากการขายดอกไม้ในวัยเพียง 25 ปี
และต่อมาได้เริ่มขยับขยายจนกลายเป็นเจ้าของหลายกิจการ
เช่น เจ้าของท่าเรือ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต่างๆใจกลางเมือง
เจ้าของโรงแรมชื่อดัง ทำบริษัทประกันชีวิต และ โทรศัพท์มือถือ
ปัจจุบันมหาเศรษฐีท่านนี้ได้กลายเป็นเศรษฐีเบอร์ 1 ของเอเชีย
และ อยู่ที่อันดับ 18 ของโลก ด้วยสินทรัพย์สุทธิในวัย 88 ปีที่ 31,300 ล้านด  อลลาร์

( ประมาณ 1 ล้านล้านบาท ) สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างขึ้นจาก
ความพยายาม ความอดทนและ ระเบียบวินัยในการใช้จ่าย
“ ลี กา ชิง ” ได้แบ่งปันเคล็ดลับความสำเร็จ ที่เขาใช้ในการสร้างฐานะจากศูนย์
จนขึ้นเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆของประเทศ โดยเขาบอกว่าใช้เคล็ดลับ
แบ่งเงินเป็น 5 กอง ดังนี้ ( หากสมมติว่าเรามีรายได้  อยู่ที่ 20,000 บาท )
กองที่ 1 = ค่าใช้จ่าย 6,000 บาท (30%)
เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง
ในการกินให้เน้นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และ ประหยัดตัดอาหารที่แพง ฟุ่มเฟือย
และ ไม่จำเป็นทิ้งไป เช่น บุฟเฟ่ต์แพงๆ กาแฟแบรนด์ที่ราคาสูงขนมขบเคี้ยว
ถ้าคุณตัดสิ่งเห  ล่  านี้ออกไปได้รับรอง 6,000 บาท ใช้อยู่ใช้กินได้อย่างเพียงพอแน่นอน
กองที่ 2 = สร้างสายสัมพันธ์ 4,000 บาท (20%)
เงินสร้างความสัมพันธ์ หรือสร้าง connection กับคนอื่นๆ
เช่น ลงทุนเลี้ยงอาหารให้กับคนที่มีความรู้ความสามารถที่เขามีความเก่งกว่าคุณ
เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ เรียนรู้ทัศนะคติ
และ มุมมองด้านต่างๆจากเขา มื้อนึงอาจใช้เงินอยู่ที่ประมาณ 1000 ถึง 1,500 บาท
คุณจะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปเลี้ยงได้ประมาณ 3-4 มื้อ เฉลี่ยแล้วตกอาทิตย์ละครั้ง
ดังนั้นคุณจะต้องคิดให้รอบคอบว่าคุณจะต้องนำเงินนี้ไปกินเลี้ยงกับใคร
เมื่อครบปีหนึ่งคุณจะรู้จักผู้คนมากมายขึ้นอย่างแน่นอน
อาจได้รับความช่วยเหลือดีๆจากบุคคลเหล่านั้น
และโอกาสทางธุรกิจมากมายในอนาคตอีกด้วย
กองที่ 3 = การศึกษา 3,000 บาท (15%)
หากคุณไม่ได้เกิดมาร่ำรวย หรือ มีมรดกมากมาย การศึกษานี่แหละ
เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยให้คุณพัฒนาฐานะได้อย่างก้าวกระโดด
การซื้อหนังสือลงทุนมาอ่านและศึกษาเอง การเข้าคอร์สอบรมหลักสูตรดีๆ
ในการลงทุน หรือ ศึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ ก็แล้วแต่ความสะดวก
กองที่ 4 = ซื้อความสุข 2,000 บาท (10%)
การซื้อความสุขให้ตนเอง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวคนเดียว
อย่างน้อยปีละครั้ง จะทำให้มีประสบการณ์มากขึ้น
เมื่อคุณต้องอยู่ต่างแดน ที่ใช้คนละภาษาใช้เงินคนละสกุล และ
ไม่รู้จักใครเลย เป็นการฝึกทักษะการเอาตัวรอด
ที่คุณจะต้องงัดทุกความสามาร ถที่มีออกมาใช้ในการเที่ยวทริปนี้
เมื่อคุณทำสำเร็จ และ ผ่านมันไปได้ คุณจะค้นพบว่า
ในตัวเรานั้นมีพลังเต็มเปี่ยมเพื่อที่จะไปสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไปในชีวิต
ได้  อีกมากมาย คุณจะไม่จมอยู่กับสิ่งเดิมๆ
และ อาจได้เห็นโอกาสทางธุรกิจดีๆที่ต่างประเทศอีก ด้วย
กองที่ 5 = เพื่อการลงทุน 5,000 บาท (25%)
เงินกองที่ห้าจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม มันก็จะทำให้คุณมีประสบการณ์
และความเชื่อมั่นในตนเองในการที่จะเป็นเถ้าแก่ ของธุรกิจของตัวเอง
อาจเริ่มต้นด้วยธุรกิจเล็กๆแล้วค่อยๆขยับขยาย หรือเริ่มต้นลงทุนในหุ้นดีๆสักตัว
งเชื่อเถอะว่าเมื่อ ผ่านไป 5 ปี สิ่งที่คุณลงทุนไป มันย่อมงอกเงยออกดอกออกผลอย่างแน่นอน
หากอยากลองทำตาม ไม่จำเป็นต้องแบ่งสัดส่วนตามที่ก  ล่าวมาก็ได้
ให้แบ่งตามความจำเป็นที่ทำได้ในแต่ละคน แต่ควรแบ่งออกเป็น 5 กองเสมอ
ลี กา ชิง ยังแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่า… คนหนุ่มสาวสมัยนี้มัก
ทานอาหารนอกบ้าน ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ราคาแพง แล้วโพสรูปลงโซเชียล
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเขามีความสุขเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
แต่กลับต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก
ทั้งๆที่ควรเก็บออมไว้เพื่อสร้างธุรกิจหรือการลงทุนในอนาคต
หากอยากพลิกฐานะตัวเองจริงๆ เราต้องรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
และ รู้จักหักห้ามใจไม่ให้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
ระเบียบวินัยก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญหากลงมือทำแล้วก็ต้องทำให้ต่อเนื่อง
อย่างน้อยๆ 5 ปี จึงจะเห็นผล
ขอขอบคุณรูปและบทความดีๆจาก   https://www.chit-in.com/

ตอนลำบากเพื่อนให้เงินมา 4,600 บาท ผ่านมา32ปี นำเงินไปตอบแทนเพื่อน 46 ล้านบาท


วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ ของคน คนหนึ่งถึงแม้การเวลาผ่านไป นานถึง32ปี ยังไม่ลืมที่สิ่งที่เพื่อนมอบให้ในวันนั้น 32 ปีที่แล้ว Sun Shengrong เด็กหนุ่มจากหมู่บ้าน Gangtou เมือง Wenxi เขต Qingtian มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ในวัย 14 ปีทำงานในร้านตัดผมที่พี่ชายเปิด ในเวลานั้น Zhang Aimin วัย 24 ปีเป็นลูกค้าประจำขอที่ร้าน นานวันเข้าก็คุ้นเคยกลายเป็นเพื่อนกับ Sun Shengrong ต่อมาร้านตัดผมปิดตัวลง Sun Shengrong จึงต้องไปรับจ้างทำงานไปทั่ว


วันหนึ่งขณะเดินอยู่ข้างถนนก็ได้พบกับ Zhang Aimin โดยบังเอิญ พอ Zhang Aimin รู้ว่า Sun Shengrong กำลังลำบาก ก็รับควักเงิน 1,000 หยวนที่เก็บมา 1 ปี (ประมาณ 4,600 บาท) ให้ Sun Shengrong ทันที เป็นเงินทุนเพื่อช่วยให้ Sun Shengrong เปิดร้านตัดผมอีกครั้ง พวกเขามักจะไปมาหาสู่ช่วยเหลือกัน บางครั้งก็ช่วยทำอาหารให้ สองคนสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง

แต่เมื่อ Sun Shengrong ไปเกณฑ์ทหารก็ขาดการติดต่อกับ Zhang Aimin ไป หลังเกณฑ์ทหาร Sun Shengrong ก็เดินทางไปสเปน ทำงานสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ ขายของข้างถนนและอื่นๆ สุดท้ายหลังผ่านการพยายามทำงานหนักมานาน ฟ้าก็เมตตา Sun Shengrong กลายเป็นผู้นำชาวจีนโพ้นทะเลที่มีชื่อเสียงในสเปน ตอนนี้ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ใจของเขาก็ไม่เคยลืมผู้มีพระคุณอย่าง Zhang Aimin

เพื่อตามหา Zhang Aimin ผู้มีพระคุณ Sun Shengrong สอบถาม และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ ตามข้อมูล ภาพถ่าย และที่อยู่พบว่ามีคนที่ชื่อและนามสกุลเดียวกันกับ “Zhang Aimin” 140 คน แต่ในที่สุดก็พบคนที่ดูคล้ายที่สุด แต่พอไปตามที่อยู่กลับไม่พบใคร ระหว่างที่เขากำลังสิ้นหวัง ในที่สุดก็ได้ข่าวดี คุณตำรวจพบ Zhang Aimin ตัวจริง เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานได้กลับมาพบกันอีกครั้ง สองคนคุยกันทั้งคืนSun Shengrong ถึงได้รู้ว่า หลังแยกกัน Zhang Aimin ไปทำงานที่โรงงานเครื่องจักร แต่เนื่องจากบริษัทดำเนินไปได้ไม่ดี ปี 2011 จึงถูกเลิกจ้าง จากนั้นเขาก็ไปเปิดร้านค้าในเมือง Zhang Aimin เล่าว่า ตัวเองแม้ว่าจะไม่ใช่คนรวย แต่ฐานะทางเศรษฐกิจตอนนี้ก็พอมีพอกิน ตอนนั้นที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ Sun Shengrong ก็เพราะคิดว่าเขาเป็นน้องชายคนนึง

เพื่อตอบแทนบุญคุณของ Zhang Aimin ในตอนนั้น Sun Shengrong ตั้งใจจะมอบตึกแถวให้เขาสองหลัง นึกไม่ถึงว่าจะถูก Zhang Aimin ปฏิเสธ Sun Shengrong ก็เลยเปลี่ยนวิธี เขาเปิดโรงกลั่นไวน์ในซูโจวโดยลงทุนมากกว่า 10 ล้านหยวน (ประมาณ 46 ล้านบ้าน)โดยให้ร้านนั้นเป็นชื่อของ Zhang Aimin และให้เขาดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ Zhang Aimin ที่ช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือชื่อเสียงเล่าว่า “แม้ว่าโรงกลั่นไวน์จะเป็นชื่อผม แต่ในอนาคตสักวันหนึ่ง ผมก็จะคืนมันให้กับ Sun Shengrong” มิตรภาพที่จริงใจน่าตื้นตัน ประสบความสำเร็จแล้วก็ไม่ลืมผู้มีพระคุณ ช่างเป็นคนมีน้ำใจ เรื่องราวแบบนี้ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นมากมาย

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.thaihothit.com/
 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2019. รับจัดงานทำบุญบ้าน - All Rights Reserved
Template Created by Creating Website Published by Mas Template
Proudly powered by Blogger